วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment)


ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ( Natural Unfoldment )
                  ทิศนา เเขมมณี(2547) ได้รวบรวบรวมเกี่ยวกับทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ
 ( Natural Unfoldment) ไว้ว่า นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ รุสโซ (Rousseau)ฟรอเบล (Froebel)และเพสตาลอสซี(Pestalozzi)นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
                  1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดี และการกระทำใดๆ เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในของมนุษย์(good-active)
                  2.ธรรมชาติ ของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรุ้และพัฒนาตนเองหากได้รับเสรีภาพใน การเรียนรู้ มนุษย์ก็จะสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ
                  3.รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆเด็กมีสภาวะของเด็ก ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
                  4.รุสโซมีความเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญ เด็กจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติคือ การเรียนรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จากผลของการกระทำของตนมิใช่การเรียนจากหนังสือ หรือจากการพูดบรรยาย
                  5.เพสตาลอสซี มีความเชื่อว่าคนมีธรรมชาติปนกันใน 3 ลักษณะ คือคนสัตว์ซึ่งมีลักษณะเปิดเผย เป็นทาสของกิเลส คนสังคม มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคมคล้อยตามสังคมและคุณธรรมซึ่งเป็นลักษณะของการรู้จักรับผิดชอบชั่วดีคนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะดังกล่าว
                  6.เพสตาลอสซี เชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอน จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
                  7.ฟรอเบลเชื่อว่าควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็กอายุ 3-5 โดยเด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
                  8.ฟรอเบลเชื่อว่า การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก
หลักการจัดการศึกษา / การสอน
                  1.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กมีสภาวะที่ต่างไปจากวัยอื่นๆ
                  2. การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ให้เสรีภาพแก่เด็กที่จะเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ
                  3. ลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก คือ การจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติ ได้แก่
                             3.1ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ
                             3.2 ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
                             3.3 ให้เด็กได้เรียนจากของจริง และประสบการณ์จริง
                              3.4ให้เด็กได้เรียนรู้จากผลของการกระทำของตน
                  4.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกตางระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก

                  บุญเลี้ยง ทุมทอง (2554) ได้รวบรวมทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment) ว่า ทฤษฎีนี้มีประโยชน์ต่อการศึกษา การจัดการศึกษาให้กับเด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ และสิ่งที่มีความหมายมากคือ แนวคิดที่ว่าเด็กที่มีอายุน้อยๆ จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด จากกิจกรรมการใช้สื่อรูปธรรม หากแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้ในห้องเรียนและแนะนำผู้เรียนมากกว่าเป็นผู้สอน โดยตรงตามทฤษฎีของเพียเจต์

        สยุมพร (https://www.gotoknow.org/posts/341272) ได้กล่าวว่า นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า  ธรรมชาติคือแหล่งเรียนรู้สำคัญ  เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ  การใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี  การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก  เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ  เด็กมีสภาวะของเด็ก ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น  การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก   การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่  และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางให้เสรีภาพแก่เด็กได้เรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน  ให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ  โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก

สรุป
               จากการศึกษา ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ( Natural Unfoldment ) เป็นทฤษฎีที่เกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาและช่วงวัยในการเรียนรู้ของผู้เรียน เชื่อว่าธรรมชาติเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุด ซึ่งมนุษย์จะเกิดการพัฒนาตนเองถ้าได้รับอิสระในการเลือกเรียนตามความต้องการหรือตามความสนใจของตนเอง จะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงก็ยิ่งจะทำให้เรียนรู้ได้ดีมากขึ้น

ที่มา
ทิศนา แขมมณี. (2547). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการ
               เรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร :
               สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญเลี้ยง ทุมทอง. (2554). การวิจัยการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์
               โรงพิมพ์สหบัณฑิต : มหาสารคาม.
สยุมพร ศรีมุงคุณ. (2554).https://www.gotoknow.org/posts/341272. [Online] 
               เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PROBLEM-BASED LEARNING)

การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ( PROBLEM-BASED LEARNING) การจัดการเรียนรู้ของครูที่เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ม...